ระบบ Cloud, LOD และการใช้เครื่องจักรกลอัตโนมัติ : AU 2016 สู่โครงสร้างในอนาคต

The Cloud, LOD : AU 2016

เมื่อพูดถึงประสบการณ์ที่มหาวิทยาลัยออโต้เดสก์แล้ว ทำให้นึกถึงว่าเทคโนโลยีของโลกเรานั้นเป็นอย่างไร เมื่อต้องกลายเป็นคนที่บอกเล่าเรื่องราวทั้งในโลกดิจิตอลและโลกทางกายภาพ นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าขอบเขตการสื่อสารแบบดิจิตอลและแบบทางกายภาพเริ่มมีความแตกต่างกันน้อยลง กลุ่มคู่ค้าด้านเทคโนโลยีและ Autodeskers ถูกเชื่อมโยงเป็นเครื่อข่ายดิจิตอลที่กว้างขึ้นของความรู้ทางอุตสาหกรรมออนไลน์ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเราอยู่ในยุคของการเชื่อมต่อ ซึ่งในอนาคตมีแนวโน้มว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการออกแบบและการสร้างโครงสร้างทางวิศวกรรม ในทางกลับกันนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงการเชื่อมต่อระหว่างกันและสิ่งต่างๆ รอบตัว ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีและผู้คนในอนาคตเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเราทุกคน

แนวโน้มในอนาคตสำหรับโครงสร้างทางวิศวกรรม

เราจะเห็นผู้เชี่ยวชาญด้าน AEC เกือบ 10,000 คนเข้าร่วม AU ในปีนี้ และมีเพียง 500 คนที่เข้าร่วมงานประชุม MEP & Structural Fabricators โดยรูปแบบจะถูกมุ่งเน้นไปที่อนาคตของการสร้างสิ่งต่างๆ ที่มีแนวโน้มส่งผลกระทบสูง เช่น หุ่นยนต์ การออกแบบเครื่องใช้ไฟฟ้า การเรียนรู้เครื่องมือ และคลาวด์

ข้อที่ 1 การออกแบบบนคอมพิวเตอร์ ในบริษัททางวิศวกรรมได้มีการนำ BIM มาใช้อยู่แล้ว ซึ่งการออกแบบบนคอมพิวเตอร์จะช่วยให้ทีมสามารถทำงานตามหน้าที่ ขั้นตอนต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ เช่น กระบวนการ QA/QC และการทำงานร่วมกันของข้อมูล สิ่งเหล่านี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มกำไร แต่ยังช่วยเพิ่มคุณภาพของการออกแบบ และจะช่วยให้วิศวกรสามารถรับมือกับปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้นได้

 

ข้อที่ 2 มีการคาดหวังว่าจะเห็นการเติบโตที่น่าสนใจและการยอมรับการทำงานร่วมกันตามระดับการพัฒนา (LOD) ตามการตรวจสอบข้อมูลของ BIM ในขั้นตอนต่างๆ ของโครงการได้โดยอัตโนมัติ เนื่องจากเทคโนโลยีการตรวจสอบแบบ LOD-based เช่น Invicara BIM Assure ที่ใช้ในอุตสาหกรรม จะนำระบบไปใช้ในกระบวนการ QA/QC โดยอัตโนมัติ ซึ่งในอนาคตมาตรฐานอุตสาหกรรมจาก LOD จะช่วยให้ผู้ผลิตและผู้รับเหมายอมรับการส่งมอบที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว

การตรวจสอบแบบจำลองโดย LOD จะทำให้การตรวจสอบคุณภาพเป็นไปอย่างอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้วิศวกรไปสามารถไปแก้ปัญหาที่มีความสำคัญมากกว่านี้ได้ วิศวกรโครงสร้างจะใช้เวลามากในการออกแบบที่มีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแต่ปฏิบัติตามข้อกำหนดเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับปัจจัยต่างๆ ด้วย เช่น วัสดุ และค่าใช้จ่ายทั้งหมด

Forest Flager, PhD, ร่วมกับ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ในโครงการ CIFE program นำเสนอผลงานที่มีประโยชน์อย่างมาก ในการเพิ่มประสิทธิภาพโครงเหล็ก ซึ่งในตอนท้าย LOD จะเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพ LOD จะช่วยสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับระดับของข้อมูลในแต่ละขั้นตอนของโครงการที่จะถูกส่ง

 

ข้อที่ 3 วิศวกรและช่างออกแบบจะตัดสินใจกำหนดรายละเอียดโดยอัตโนมัติเกี่ยวกับการออกแบบ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อรายละเอียดและเอกสารประกอบ แต่เนื่องจากการทำงานโดยอัตโนมัติ วิศวกรจึงใช้เวลาน้อยลงในการคำนวณงาน จึงสามารถมุ่งเน้นการทำงานไปที่การวิเคราะห์โครงสร้างขั้นสูง และการออกแบบที่ซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งถูกนำเสนอโดย ARUP และพาร์ทเนอร์ของ Autodesk โดย Graham Aldwinckle กับ ARUP ได้พูดถึงประโยชน์ของการใช้การคำนวณขั้นสูง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงานที่ซับซ้อน วิธีการ IDEA RS Statica Steel จะช่วยให้วิศวกรวิเคราะห์พฤติกรรมที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็วที่ได้รับการค้นคว้าและตรวจสอบแล้ว เมื่อวิธีการดังกล่าวเชื่อมต่อกับ BIM แล้ว การออกแบบบนคอมพิวเตอร์และระบบคลาวด์ สามารถทำงาน หรือเรียกใช้โครงสร้างต่างๆ ได้มากขึ้น ซึ่งจะรวมถึงความซับซ้อนและผลกระทบของการออกแบบโครงสร้างด้วย การใช้กระบวนการนี้สำหรับการออกแบบโครงสร้างจะช่วยให้วิศวกรสามารถใช้เวลาในการจัดการงานต่างๆ น้อยลง

2

 

 

ข้อที่ 4 การเข้าถึงระบบ cloud มากขึ้นกว่าแต่ก่อน และการยอมรับแบบจำลองข้อมูลที่ได้มาตรฐานมากขึ้น วิศวกรและช่างออกแบบจะเพิ่มความสามารถให้กับรายละเอียดของโครงสร้างงานมากขึ้น เพื่อใช้สำหรับการเชื่อมต่อและการวาดแบบจำลอง ในขณะที่แรงงานมีความเป็นสากลมากขึ้น เราจะเห็นการแลกเปลี่ยนรูปแบบกันระหว่างภูมิภาคมากขึ้น การทำเช่นนี้จะเป็นการเพิ่มรายได้เพื่อให้รูปแบบงานมีมูลค่าสูงขึ้น เช่น การนำ BIM มาใช้เป็นศูนย์กลางในการประสานงานและสามารถบริหารจัดการทีมงานที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและเชื่อชาติได้ การพัฒนาทักษะเหล่านี้ เป็นการจัดการสมาชิกภายในทีมที่แยกย้ายกันไปทั่วโลก

Joel Hicks ประธาน National Institute of Detailing (NISD) และเพื่อนร่วมงานได้กล่าวถึง NISD ที่มีการเตรียมช่างออกแบบเกี่ยวกับเหล็ก ให้มีความสามารถในการทำงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่มีความหลากหลายและมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตได้

 

ข้อที่ 5 ถึงแม้ว่าอุตสาหกรรมการผลิตเหล็กจะประสบความสำเร็จขึ้นอย่างมาก แต่ยังคงมีการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการผลิต เช่น การออกแบบหุ่นยนต์ และการเรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องจักร เมื่อพิจารณาจาก AU แล้ว ผู้ผลิตเหล็ก FICEP กำลังเตรียมพร้อมในการดำเนินการ โดยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับ IFC ซึ่งจะช่วยให้มีการผลิตหุ่นยนต์ได้มากขึ้นภายในโรงงานเหล็ก เช่น การประกอบชิ้นส่วนและการเชื่อม ในฐานะที่เป็น prefabrication ของหลายระบบในอุตสาหกรรม รวมถึงเหล็ก การออกแบบหุ่นยนต์จะต้องมีการนำ BIM มาใช้มากยิ่งขึ้น

 

เราจะเห็นแนวโน้มของการผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูปที่เกิดขึ้นไม่เพียงแค่ในโรงงาน ซึ่งงานที่น่าสนใจจาก AU ในปีนี้คืองานที่นำเสนอโดย Marius Jablonskis ร่วมกับ Norconsult โดย Marius นำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวกับการออกแบบและการสร้าง Vamma 12 ซึ่งเป็นโครงการโรงงานไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ ในประเทศนอร์เวย์ โครงการ Vamma มีความโดดเด่นอย่างมากในการออกแบบจากการใช้โมเดล 100% (ออกแบบโดยใช้ซอฟแวร์) และไม่ใช้กระดาษเพื่อวาดภาพในการออกแบบโครงการนี้ โดย Norconsult ต้องการมุ่งเน้นเวลาให้มากขึ้นในการการทำงานการออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเพื่อช่วยให้ทีมงานก่อสร้างสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น ผู้ผลิตได้เริ่มต้นหล่อแบบขึ้นโดยใช้รูปแบบจำลอง 3D ของ Norconsult ผู้รับเหมาใช้แบบจำลองคอนกรีตของ Norconsult เพื่อสร้างจุดสำรวจในการนำทางของเครื่องขุดหิน การนำวิธีการหลักการผลิตมาประยุกต์ใช้ในการก่อสร้างถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับวิศวกรและผู้รับเหมาที่จะช่วยเพิ่มคุณค่าของผลิตภัณฑ์ในอนาคตได้

3

สำหรับโครงการไฟฟ้าพลังงานน้ำ Vammaa 12 ในประเทศนอร์เวย์นั้น Norconsult มีการใช้  Revit เพื่อทำคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหมดในรูปแบบ 3D

แบบจำลองถูกใช้โดยผู้ผลิตแบบหล่อ Doka เพื่อสร้างแบบหล่อที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

ตัวอย่างเหล่านี้มักจะเห็นได้จาก Autodesk University 2016 วิศวกรจะต้องแก้ปัญหาด้านวิศวกรรมที่มีความซับซ้อนมากขึ้นและผู้ออกแบบจะต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในการทำงานร่วมกันที่มีความซับซ้อนมากขึ้น การใช้ภาพและเทคโนโลยีการเล่าเรื่องที่มีความน่าสนใจมากขึ้น เช่น ความจริงที่ถูกเติมแต่งขึ้น หรือเสมือนจริง จะทำให้วิศวกรและผู้ออกแบบเป็นผู้นำและผู้ติดต่อสื่อสารที่ดีขึ้นในโครงการนั้นๆ

เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจและเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ การทำงานร่วมกันภายในทีม วิศวกรและผู้ออกแบบจะต้องมีความพยายามในการเปลี่ยนการให้บริการที่มีมูลค่าสูงและการบริการที่มีมูลค่าต่ำได้โดยอัตโนมัติ

 

ซินเนอร์จี้ซอฟต์ ตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์อย่างเป็นทางการและถูกต้องในประเทศไทยของออโตเดสก์ สำหรับท่านที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สามารถสอบถามได้ทางเจ้าหน้าที่ซินเนอร์จี้ซอฟต์ที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. หรือ 085-323-5453, 02-692-2575 หรือทาง Online Store ทางเรายินดีให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ

บทความที่เกี่ยวข้อง

Autodesk Gold Partner

บริษัท ซินเนอร์จี้ซอฟต์ โซลูชั่น จำกัด

135/58 อาคารอมรพันธ์ 205 ทาวเวอร์ 2 ชั้น 19 ซอยรัชดาภิเษก 7  ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. 10400

โทรศัพท์ , แฟกซ์ : 02-692-2575

ติดต่อสอบถาม


LINE official account : @synergysoft

อีเมล (E-mail) : sales@synergysoft

ฝ่ายขาย : 085-323-5453

RELATED LINK


Synergysoft Education Center
Autodesk Authorized Training Center
ศูนย์อบรมการใช้โปรแกรมออกแบบและทดสอบอย่างเป็นทางการจากออโตเดสก์

Synergysoft Online Store
ร้านซอฟต์แวร์ออนไลน์ ชำระด้วยบัตรเครดิตได้

Luvicha
เว็บออนไลน์เทรนนิ่ง เรียนรู้ได้ 24 ชั่วโมง ได้ทุกที่ ทุกเวลา

Revit Thailand Fanpage
ชุมชนผู้ใช้โปรแกรม Revit และ BIM ของ Autodesk

Autodesk Inventor Society Fanpage
ชุมชนผู้ใช้โปรแกรม Autodesk Inventor และโปรแกรมออกแบบอุตสาหกรรมของ Autodesk

Autodesk Fusion360 Thailand Fanpage
ชุมชนผู้ใช้โปรแกรม Autodesk Fusion360 ในไทย

Synergysoft Education Center fanpage
อัพเดตข่าวสารการอบรม ตารางการอบรมต่างๆ ผ่าน ซินเนอร์จี้ซอฟต์ เอ็ดดูเคชั่น เซนเตอร์ แฟนเพจ

Unity3D Technology Thailand Fanpage
ชุมชนผู้ใช้โปรแกรม Unity3D ด้านงานสถาปัตยกรรมในไทย

Synergysoft Support Portal

บริการหลังการขาย แก้ไขปัญหาต่างๆ จากการใช้โปรแกรม

ร่วมงานกับเรา

Privacy Policy

Copyright 2024 © All Rights Reserved by Synergysoft