Special Articles : MFG
เชื่อว่าทุกท่านคงจะได้ทราบว่าตอนนี้ผลิตภัณฑ์ของ Autodesk ในฝั่งการออกแบบผลิตภัณฑ์มีเพิ่มเช้ามาอีกตัว คือ Autodesk Fusion360 ซึ่งมีความสามารถคล้ายๆกับ Autodesk Inventor ที่มีอยู่ในปัจจุบัน บทความนี้เราจะมาเปรียบเทียบความสามารถเบื้องต้นของสองโปรแกรมนี้ว่ามีความแตกต่างอย่างไรบ้าง
โปรแกรม Autodesk Fusion 360 มีปลั๊กอินที่ชื่อ Part4CAD ทำให้ผู้ใช้งานสามารถนำเข้าโมเดล 3 มิติที่ถูกสร้างจากผู้ผลิตมากกว่า 400 โมเดล ได้ทันที
Part4CAD ช่วยให้สามารถนำเข้าโมเดล 3 มิติ จากใน Catalogs ผู้ผลิตสินค้าโดยตรง ซึ่งเมื่อทำการเลือกโมเดลที่ต้องการแล้ว โมเดลตัวนี้จะถูกนำเข้ามาอยู่ในโปรแกรม Fusion360 ทันที และหากต้องการแก้ไขโมเดลก็สามารถทำการแก้ไขโมเดลได้อย่างอิสระอีกด้วย
Autodesk Factory Design Utilities เป็น Add-in ในตัวโปรแกรม Autodesk AutoCAD, Inventor และ Autodesk Naviswork Manage เครื่องมือช่วยออกแบบผังโรงงานและสายการผลิต ผสมผสานการทำงานระหว่าง Layout 2 มิติบน AutoCAD และการออกแบบ 3 มิติด้วย Autodesk Inventor อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ Factory Design Utilities ยังช่วยในการออกแบบวางผังโรงงาน วิเคราะห์การเคลื่อนที่ของวัสดุ (Material Flow) และ Machine Utilization ได้อีกด้วย
คุณเคยประสบปัญหาแบบนี้บ้างไหม บางครั้งที่ต้องการออกแบบ 3D model และต้องการ ทำ 3D Printer แต่โปรแกรมออกแบบที่ใช้ ไม่สามารถออกแปลงไฟล์ เป็น Mesh ไฟล์ เพื่อนำไปทำ 3D Print ได้ ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเมื่อคุณใช้ Fusion 360
ในการใช้งานโปรแกรม Inventor ไม่ว่าจะเป็นสร้างโมเดล 3 มิติหรืองานประกอบ(Assembly) จะพบว่าบางครั้ง จ าเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือ Section View เพื่อดูรายละเอียดบริเวณนั้น ๆ โดยผู้ใช้งานอาจจะไม่ชอบพื้นผิว (Texture) ที่เป็นค่าเริ่มต้น ซึ่งจะมาดูกันว่าขั้นตอนการเปลี่ยนพื้นผิว(Texture) ทำอย่างไร วิธีการเปลี่ยนพื้นผิว(Texture) มีดังต่อไปนี้
การใช้งานโปรแกรม Inventor 2023 เพื่อใช้ในงานประกอบ (Assembly) บางครั้งผู้ใช้งานจําเป็นที่จะต้อง ปิดการแสดงผลของชิ้นส่วนต่าง ๆ บางชิ้นโดยการคลิกขวาแล้วเลือกคําสั่ง Visibility เพื่อเปิด-ปิด ชิ้นส่วนนั้น ๆ รวมถึงชิ้นส่วนที่นํามาจาก Content Center ด้วย ซึ่ง Inventor 2023.2 ได้มีการอัปเดต การเปิด-ปิด เพิ่มเข้ามาในส่วนของ View representation แล้ว ทําให้ง่ายต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น โดย วิธีการก็ไม่ยากครับ ให้ผู้ใช้งานไปที่ View ที่ต้องการแล้วคลิกขวา จากนั้นเลือกเปิด-ปิด Content Center โดยใช้คําสั่ง Content Center Visible หรือ Content Center Hidden ดังภาพครับ