Autodesk Tandem คืออะไร ?
Autodesk Tandem คือ Platform ในรูปแบบของ Digital Twin ที่จะเข้ามาช่วยจัดระเบียบและกำหนดข้อมูลจากการออกแบบ รวมไปถึงข้อมูลจากการจำลอง Simulation ของอาคารโดยเป็นการดำเนินการควบคู่กันไปกับการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ในงานก่อสร้างรวมไปถึงข้อมูลรายละเอียดเชิงลึก เช่น วันที่ติดตั้งอุปกรณ์, ข้อมูลของ Supplier, ID number ของอุปกรณ์, รวมไปถึงข้อมูลการ Maintenance อุปกรณ์ต่างๆ
โดยแปลงข้อมูลจากเอกสารให้เป็นข้อมูลในรูปแบบ Digital เพื่อลดการสูญหายของข้อมูล, ข้อมูลมีความโปร่งใส และมีความเข้าใจที่ตรงกันระหว่าง ผู้ออกแบบ ผู้รับเหมา และเจ้าของโครงการ เมื่อเสร็จสิ้นโครงการ สามารถส่งมอบข้อมูล Digital ที่ครอบคลุมให้กับเจ้าของโครงการได้ลย ซึ่งเป็นข้อมูลที่เข้าถึงได้ง่ายและมีข้อมูลเชิงลึกเพิ่มความพร้อมในการดำเนินงาน บริหารจัดการทรัพยากรอาคาร หรือเรียกว่า Facility Management (FM) เป็นการเพิ่มความสามารถในการตัดสินใจของเจ้าของโครงการทางธุรกิจได้ดีขึ้น
ขั้นตอนการสมัครเข้าใช้งาน (ฟรี)
ช่วงนี้ทาง Autodesk นั้นให้เปิดให้ทุกท่านที่สนใจในตัว Autodesk Tandem ซึ่งเป็น Platform ใหม่ที่จะเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการข้อมูลต่างๆ ในงานก่อสร้างได้ทดลองใช้งานกันได้ฟรี โดยวิธีการสมัครเข้าใช้งาน อันดับแรกให้เราเข้าไปที่เว็บไซต์ www.intandem.autodesk.com จากนั้นให้คลิก Sign up free หรือคลิกที่ Get Tandem Free
จากนั้นให้เราใส่ข้อมูล E-mail และรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ใช้งาน แล้วคลิก Create Account
เสร็จแล้วให้เรานำ E-mail ที่ใช่สมัครมา Sing in เข้าสู่ Autodesk Account
จากนั้นคลิก Start using Autodesk Tandemและ Accept เพื่อเข้าสู่การทำงานใน Autodesk Tandem
ฟังก์ชั่นการใช้งาน Autodesk Tandem
ในส่วนของ Autodesk Tandem จะแบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานเป็น 2 ส่วน คือ Filter กับ Manage
1. ส่วน Filter : จะเป็นส่วนที่เราใช้สร้างโครงการ (Facilities) และแสดงรายการของโครงการที่อยู่ในระบบ ถ้าเราอยากจะสร้างโครงการขึ้นมาใหม่ สามารถทำได้โดยคลิกที่ Create new facility จากนั้นใส่ข้อมูลรายละเอียดของโครงการที่เราจะสร้าง ไม่ว่าจะเป็น
- ชื่อโครงการ
- สถานที่โครงการ
- เจ้าของโครงการ
- รูปภาพโครงการ
เมื่อเราสร้างโครงการเรียบร้อยแล้ว เราสามารถคลิก Import Model ได้ 2 แบบ คือ Upload File Revit ได้โดยตรง กับ Upload File จากระบบ Cloud ใน Bim360
การจัดการ Model ที่ Import เข้ามา จะอยู่ใน Tab ของ Files
ใน Autodesk Tandem นี้จะทำให้เราจัดการรายละเอียดของโมเดลได้ง่ายขึ้น โดยเราสามารถเลือกแสดงโมเดลให้โฟกัสแค่เฉพาะส่วนงานที่เราต้องการจะดูได้ โดยไปที่ Tab ของ Filter เราสามารถเลือกการแสดงโมเดลได้ว่าจะดูในส่วนระดับพื้นชั้นไหน ดูในส่วนของงานอะไร หรือระบบอะไร ซึ่งใน Filter สามารถกรองรายละเอียดโมเดลได้ดังนี้
-
Floor
-
Systems
-
Revit Categories
-
Revit Families
-
Revit Type
ถ้าลองคลิกเลือกที่ Tab ของ Inventory จะแสดงข้อมูลในส่วนของ Revit Element, Revit Type
ตามการเลือก Filter ของโมเดล ซึ่งเราสามารถที่จะ Export ตารางไปใส่ข้อมูลต่อในโปรแกรม Excel แล้ว Import กลับเข้ามาได้ ซึ่งข้อมูลจะถูกนำมาเชื่อมโยงและอัพเดตกับเข้ากับตัวโมเดล
หากเราลองนำเม้าส์ไปคลิกเลือกที่วัตถุ ในส่วนของ Tab Properties จะแสดงรายละเอียดที่เป็นข้อมูล, Parameter จากโมเดล Revit
แต่ถ้าหากเราอยากให้ส่วนของโมเดลหรือทรัพย์สินของอาคารแสดงข้อมูลที่ละเอียดขึ้น เราสามารถไปสร้าง Parameter เพิ่มเพื่อนำมาใส่ข้อมูลเชิงลึกที่เราต้องการได้ ใน Tab Assets
นอกจากนี้เรายังสามารถกำหนดจำนวนคนที่สามารถเข้าถึงข้อมูลว่าให้สามารถดูหรือแก้ไขข้อมูลของทรัพย์สินภายในอาคารได้อีกด้วย โดยไปที่ Tab User
รวมถึงการเช็คข้อมูลการเปลี่ยนแปลงย้อนหลังโดกยไปที่ Tab History
2. ส่วน Manage : เป็นส่วนที่ใช้ในการบริหารข้อมูลเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบของหมวดงานก่อสร้าง การสร้างแบบฟอร์มแสดงข้อมูล การสร้าง Parameter สำหรับข้อมูลเชิงลึก รวมไปถึงการบริหาร User ที่จะเข้ามาใช้งาน
- Classification : เป็นการจัดการหมวดหมู่ของประเภทงานต่างๆ เราสามารถ Export รูปแบบการแบ่งหมวดหมู่งานที่เป็น Standard จาก Autodesk Tandem ไป Edit ต่อในโปรแกรม Excel แล้ว Import กลับเข้ามาให้ใน Facilities ของเราได้
- Parameter Sets : เป็นการสร้างเพิ่มและจัดการในส่วนของ Parameter เพื่อแสดงข้อมูลของโมเดลในเชิงลึก
- Team : เป็นการจัดการคนที่สามารถเข้ามาใช้งาน
- Organization : แสดงข้อมูล Account ขององค์กร
- Usage : แสดงข้อมูลเพิ่มเติ่มเกี่ยวกับการใช้งาน
บทสรุป
Autodesk Tandem ถือเป็นการจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพย์สินภายในโครงการ หรืออาคาร (Facility Management) เพื่อตอบโจทย์การทำงานกันในหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ออกแบบ กลุ่มผู้รับเหมา รวมไปถึงเจ้าของโครงการ ทำให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น เจ้าของโครงการสามารถบริหารทรัพย์สินได้ว่าในอนาคตจะมีทรัพย์สินส่วนไหนที่ต้องบำรุงรักษา หรือซ่อมแซ่มตรงไหนบ้าง ซึ่งข้อมูลจะอยู่ในรูปแบบของ digital เพื่อป้องกันการคลาดเคลื่อนและสูญหาย มีความเข้าใจที่ตรงกัน ตลอดจนนำข้อมูลไปต่อยอดใช้งานในอนาคตได้
สุดท้ายนี้ ทุกท่านสามารถติดตามบทความดีๆ มีประโยชน์แบบนี้ ได้ทางเว็บไซต์ของ Synergysoft.co.th
หรือหากท่านใดสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ที่ช่องทางอีเมล This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
รวมถึงอัปเดทคอร์สอบรมวิธีการใช้งาน Revit ล่าสุดได้ที่หน้าเว็บไซต์ synergysoft.co.th/educenter/
ซินเนอร์จี้ซอฟต์ ตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์อย่างเป็นทางการและถูกต้องในประเทศไทยของออโตเดสก์ สำหรับท่านที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สามารถสอบถามได้ทางเจ้าหน้าที่ซินเนอร์จี้ซอฟต์ที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. หรือ 085-323-5453, 02-692-2575 หรือทาง Online Store ทางเรายินดีให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ