อนาคตของนวัตกรรมการก่อสร้าง

การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น เช่น การพิมพ์ 3D Infinite computing หุ่นยนต์ โดรน big data, the Internet of Things (IoT) และ machine learning ที่เป็นแรงผลักดันในการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในการสร้างสิ่งต่างๆ

เนื่องจากเทคโนโลยีที่กระจัดกระจาย พวกเขาจะหยุดและสร้างโมเดลทางธุรกิจใหม่ กำหนดรูปแบบใหม่ของราคาในตลาด สร้างรูปแบบใหม่ของการแข่งขัน ตลอดจนสร้างคู่แข่งรายใหม่

ความหมายโดยนัยของความสำเร็จของอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ซึ่งจะต้องประกอบด้วย ความชำนาญของเทคโนโลยีใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกัน และวิธีการดำเนินการเพื่อเพิ่มผลิตและความสามารถในการแข่งขัน จะมีผลกระทบที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมอื่นๆ ทั้งหมด เนื่องจากพื้นฐานการก่อสร้างเป็นรากฐานแก่อุตสาหกรรมอื่นๆ ทั้งหมด การนำส่งโครงสร้างพื้นฐานของที่พักอาศัย สังคม และเศรษฐกิจ ที่มีการรับประกันด้านต่างๆ จำนวนมากในชีวิตประจำวัน

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้นำความคิดด้านอุตสาหกรรม Dominic Thasarathar ได้เผยแพร่รายงานการก่อสร้างกับพลังงานของดิจิตอล การร่างเค้าโครงเทคโนโลยีใหม่เป็นพื้นฐานการปรับเปลี่ยนวิธีการออกแบบ การสร้าง และการปฏิบัติการอาคารและโครงสร้างพื้นฐาน นี่เป็นความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงที่แปรรูปวิธีการสร้างสิ่งต่างๆ

ความท้าทายในปัจจุบันและอนาคตของนวัตกรรมการก่อสร้าง

ทุกวันนี้ ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมการก่อสร้างยังอยู่ในขั้นของผลผลิตแรงงาน หากกำลังแรงงานมีประสิทธิภาพน้อยกว่าที่คาดหวัง 10% กำไรจะลดลงอย่างน้อย 5% ในขณะที่ภาคอื่นๆ ของเศรษฐกิจได้เห็นข้อได้เปรียบที่สำคัญในกำลังผลิตช่วง 2 - 3 ทศวรรษที่ผ่านมา การสร้างกำลังผลิตยังคงอยู่ในระดับต่ำและราบเรียบ

สิ่งนี้จำเป็นจะต้องเปลี่ยนอย่างรวดเร็วตอนนี้ ด้วยความต้องการสำหรับการส่งออกข้อมูลการก่อสร้าง คาดการณ์ว่าจะเติบโตถึง 85% ภายในปี 2030 ซึ่งผลกระทบของการปรับมาตราเช่นนี้ ทำให้กำลังผลิตต่ำตามสภาพแวดล้อมและเศรษฐกิจของพวกเรา และโอกาสที่ผิดพลาดในการเพิ่มมูลค่าให้กับสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นจะไม่เป็นที่ยอมรับ

การจัดหาความร่วมมือ การรวบรวมห่วงโซ่อุปทาน (supply chains) และการออกกฏหมายเพื่อความก้าวหน้าเป็นขั้นตอนในทิศทางที่ถูกต้อง แต่จะเพียงพอหรือไม่?

ผู้รับเหมาจำเป็นต้องพิจารณาถึงผลประโยชน์ของสินทรัพย์ที่พวกเขาสร้างขึ้น ตัวอย่างเช่น การพัฒนาสังคมการเคหะ จะช่วยปรุงปรุงคุณภาพชีวิตของประชากรในท้องถิ่นนั้นหรือไม่?

เทคโนโลยีสามารถช่วยให้พวกเขาตัดสินใจเกี่ยวกับทรัพย์สินในการสร้างได้ดียิ่งขึ้นและผสมผสานกับทรัพย์สินของธรรมชาติ 85% ในการเพิ่มขนาดของเงินทุนจะสืบทอดกันมา โครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกได้เผชิญหน้ากับช่องว่างทางการเงินอยู่ที่ 1 ล้านล้านเหรียญต่อปี แต่เทคโนโลยีในวันพรุ่งนี้จะช่วยปรับปรุงกระแสทางการเงินในโครงการอาคารและโครงสร้างพื้นฐานในวันพรุ่งนี้ได้

โอกาสนำมาซึ่งความท้าทาย

1. การตัดสินใจที่จะช่วยขับเคลื่อน Big Data

การก่อสร้างมีการปรับโฉมใหม่เพิ่มมากขึ้นโดยจำเป็นต้องสร้างในสภาพแวดล้อมของสิ่งแวดล้อมในเมืองที่ซับซ้อนและโดยการเปลี่ยนศูนย์กลางแรงโน้มถ่วงของข้อมูลส่งออกไปยังประเทศที่กำลังพัฒนา

ความจำเป็นในการขับเคลื่อนการสร้างเครื่องมือใหม่ที่สามารถสร้างโมเดลอาคารและโครงสร้างพื้นฐานทางสารสนเทศระดับใหญ่ ทำให้ผู้รับเหมาสามารถช่วยเหลือลูกค้าในการตัดสินใจในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายได้

กลุ่มก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก Balfour Beatty ได้ใช้ซอฟต์แวร์ BIM 360 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการปรับเปลี่ยนสนามกีฬาโอลิมปิกของกรุงลอนดอนให้เป็นบ้านหลังใหม่สำหรับสโมสรฟุตบอล West Ham United ซอฟต์แวร์จะทำให้ทีมงานของ Balfour Beatty สามารถติดตามการดำเนินการได้แบบ real time ระบุและจัดการปัญหาที่ขัดขวางกระบวนการทำงาน และทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในโครงการทั้งหมดได้รับข้อมูลและเอกสารล่าสุด

การใช้ข้อมูลทั้งหมดในสภาพแวดล้อมที่ปลายนิ้วของทีมทำให้พวกเขาสามารถทำการตัดสินใจได้อย่างเชี่ยวชาญมากขึ้น บ่อยขึ้น และได้รับการช่วยเหลือวิศวกรด้านคุณภาพของบริษัทและผู้จัดการบรรจุภัณฑ์ในการตรวจพบการปะทะกันถึง 6,000 ครั้งในแบบจำลอง 3D และการกำหนดหน้าที่ไปยังผู้รับเหมาช่วงในการจัดการกับการปะทะกันอย่างรวดเร็วก่อนที่จะเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการทำงานน้อยลง ส่งมอบได้ตรงตามเวลา/ตามงบประมาณมากขึ้น และลูกค้าเกิดความพึงพอใจ

2. เงินทุนช่วยขับเคลื่อนระบบดิจิตอล

การก่อสร้างจำเป็นต้องใช้เงินทุนในการสร้าง แต่ตั้งแต่วิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2008 ความไม่แน่นอนนั้นได้ขัดขวางกระแสเงินทุนสู่โครงการ อย่างไรก็ตามแนวโน้มด้านเทคโนโลยีได้เริ่มต้นเสนอ 3 วิธีการใหม่ในการปลดล็อกเงินทุนด้วยการสร้าง:

• การจับคู่บนความเสี่ยง : การทำความเข้าใจเกี่ยวกับโปรไฟล์ความเสี่ยงของโครงการคือบางสิ่งที่ big data และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงทำนายสามารถปรับปรุงได้ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ทรัพย์สินที่มีอยู่ผ่าน IoT จะทำให้เข้าใจถึงวิธีการที่สินทรัพย์ในอนาคตจะมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น จะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจถึงโปรไฟล์ความเสี่ยงของโครงการก่อนการจัดหาเงินทุน
• การกำหนดมูลค่าคงเหลือ : ปลดล็อกเงินทุนโดยการขายสินทรัพย์ แล้วนำรายได้มาลงทุนในโครงการใหม่ตามปกติ แต่นี้คือกระบวนการที่ขึ้นอยู่กับการกำหนดมูลค่าที่เหลืออยู่อย่างถูกต้องแม่นยำในสินทรัพย์ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงทำนาย การสำรวจข้อมูลระยะไกล และผลตอบรับ IoT จะช่วยบอกจำนวนมูลค่าในระดับสูงสุดของการปล่อยเงินทุน (และหนี้สินที่มีอยู่) ได้ดีขึ้น
• การระดมทุนสาธารณะ : การระดมทุนสาธารณะถูกนำมาใช้เพื่อรวบรวมเงินทุนในการผลิตและพื้นที่อื่นๆ แต่ในสิ่งแวดล้อมที่สร้างขึ้นได้ใช้เป็นวิธีการในการระดมทุนสำหรับการพัฒนาที่ดินในภาคเอกชนและโครงการโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมของภาครัฐ

3. การเตรียมการผลิตและการผลิตแบบดิจิตอล

การเตรียมการผลิตไม่ใช่สิ่งที่ใหม่ แต่เป็นสิ่งที่สมควรทำให้ง่ายขึ้น เทคโนโลยีการทำแบบจำลองขั้นสูงจะช่วยให้ผู้รับเหมาทำงานได้จากส่วนที่ลึกที่สุดจนถึงการใช้องค์ประกอบมาตรฐานสำหรับสิ่งปลูกสร้างและโครงสร้างพื้นฐาน และจากบนลงล่างในการแยกการออกแบบที่รับช่วงมาให้เป็นองค์ประกอบที่อาจเป็นการเตรียมการผลิตนอกสถานที่ แล้วจึงนำมาประกอบในสถานที่

การเตรียมการผลิตในปัจจุบันสามารถปรับขนาดได้ และมีความสามารถในการช่วยเหลืออุตสาหกรรมเพื่อให้บรรลุมาตรฐานระดับสูง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญพื้นฐานในการปลดล็อกรูปแบบการผลิตที่มีคุณภาพ อาคารสามารถผลิตได้ในศูนย์การปฏิบัติงานที่มีต้นทุนต่ำ แล้วจึงจัดส่งทั่วโลกสำหรับการประกอบขั้นสุดท้าย โดยมีนัยสำคัญสำหรับ landscape ที่แข่งขันได้ในการก่อสร้าง

การวางมาตราฐานไม่ได้เหมาะสมกับทุกโครงการ ซึ่งที่ที่นำการพิมพ์แบบ 3D เข้ามา ทุกวันนี้อาจเกิดขึ้นได้โดยตรงจากแบบจำลอง 3D ของรายการสิ่งของไปยังวัตถุจริงที่เสร็จแล้วในการสัมผัสเพียงครั้งเดียว ด้วยเครื่องจักรเดียว ไม่มีการดัดแปลงใหม่ ในวัสดุต่างชนิดกันมากว่า 80 ชนิด เช่น เหล็ก กระจก เซรามิค โพลีเมอร์ คอนกรีต และอื่นๆ

MX3D ใช้หุ่นยนต์และการพิมพ์ 3D ในการก่อสร้างสะพานโลหะใน Amsterdam

ด้วยการพิมพ์ 3D ‘ความซับซ้อนและความเป็นเอกลักษณ์’ เป็นไปอย่างอิสระ อิสระจากข้อจำกัดของมาตรฐานส่วนประกอบ ผู้รับเหมาสามารถเน้นไปที่โซลูชั่นในอุดมคติสำหรับโครงการ และจึงส่งมอบโซลูชั่นเหล่านี้ด้วยความเสียหายน้อยที่สุด

MX3D บริษัทด้านการพิมพ์ 3D ของชาวดัตซ์ ได้จัดให้มีหุ่นยนต์ multi-axis ทางด้านอุตสาหกรรม ด้วยเครื่องมือ 3D ในการสร้างสะพานเหล็กที่สามารถใช้งานได้เต็มรูปแบบ ที่จะทอดข้ามลำคลอง Oudezijds Achterburgwal ใน Amsterdam เมื่อเสร็จสิ้นการสร้างสะพาน MX3D จะเป็นสะพานที่พิมพ์ 3D แห่งแรกของโลก

4. ระบบอัตโนมัติของไซต์

เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น โดรน สามารถใช้ในการดำเนินการสำรวจ สแกน และตรวจสอบบนสถานที่ก่อสร้างได้ การได้รับภาพจากโดรนเข้ามาในซอฟต์แวร์ reality-capture ซึ่งจะเป็นการต่อภาพถ่ายเข้าด้วยกันเพื่อการสร้างแบบจำลอง 3D โดยการนำโลกจริงเข้าไปในสิ่งแวดล้อมซิลิคอนบนมาตราส่วนขนาดใหญ่อย่างเป็นธรรมชาติ

ภาพโดรนและแบบจำลอง 3D ของโรงงานบำบัดน้ำสำหรับเพาะปลูกจาก IMCO Construction

เราได้เห็นการใช้กล้องที่สร้างไว้ติดอยู่กับโดรนสำหรับการใช้งานหลายประเภท จากการตรวจสอบระยะไกลของโครงสร้างและอาคารสูง จะช่วยลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายของการใช้งานบนที่สูงในการตรวจสอบของสินทรัพย์เชิงเส้นขนาดใหญ่ เช่น ท่อลำเลียงน้ำมัน หรือรางทางเดินรถไฟ

เทคโนโลยีที่สวมใส่ได้ถูกนำมาใช้เพื่อปรับปรุงแก้ไขด้านความปลอดภัยในสถานที่ก่อสร้าง Human Condition Safety เป็นบริษัทชั้นนำแห่งหนึ่งที่รับผิดชอบในเรื่องนี้และในกระบวนการของโซลูชั่นที่กำลังพัฒนา เช่น smart vests (เสื้อกล้ามชาญฉลาด) ที่จะช่วยทีมงานก่อสร้างทำงานสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยในเรื่องความปลอดภัยและความรวดเร็ว และช่วยให้จัดการสถานที่ได้ในแบบ real-time แสดงแดชบอร์ดจำนวนแรงงานในปัจจุบันที่อยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง

ตอนนี้เราอยู่ในจุดที่หุ่นยนต์มีความสามารถยิ่งขึ้นมากกว่าขีดจำกัดการทำงานของงานที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ส่วนมากในการควบคุมดูแลวัตถุและส่วนประกอบ ในปัจจุบันพวกเขาสามารถเชื่อมต่อไปยัง broad range ของเซ็นเซอร์ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาจับข้อมูลเกี่ยวกับส่วนที่พวกเขากำลังทำงานได้ ข้อมูลนี้สามารถส่งกลับไปยังระบบควบคุม ทำให้สามารถทำการปรับปรุงแก้ไขการทำงานและขับเคลื่อนประสิทธิภาพขนาดใหญและมีความถูกต้องแม่นยำสูงในระหว่างกระบวนการทำงาน

ขั้นต่อไป

การรักษาเทคโนโลยีเกิดใหม่เหล่านี้ในปัจจุบันเป็นขั้นต่อไปที่ดีเยี่ยม เช่น อุตสาหกรรมการก่อสร้างและการเปลี่ยนแปลงบรรทัดฐานเมื่อเกิดการหยุดชะงัก นี่จะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัทก่อสร้างในการเรียนรู้ ผู้เชี่ยวชาญและผู้ควบคุมเทคโนโลยีและเทคนิคเหล่านี้เพื่อให้ธุรกิจก่อสร้างของพวกเขายังคงสามารถแข่งขันและมีความสำคัญในการเผชิญหน้าของรายการที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามความต้องการจากลูกค้า

ซินเนอร์จี้ซอฟต์ ตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์อย่างเป็นทางการและถูกต้องในประเทศไทยของออโตเดสก์ สำหรับท่านที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สามารถสอบถามได้ทางเจ้าหน้าที่ซินเนอร์จี้ซอฟต์ที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. หรือ 085-323-5453, 02-692-2575 หรือทาง Online Store ทางเรายินดีให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ