การเพิ่มผลตอบแทนการลงทุนการก่อสร้างด้วย BIM 4D

BIM4D synergysoft

การใช้ BIMได้ขยายตัวอย่างมากในอุตสาหกรรมการก่อสร้างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และบริษัทก่อสร้างส่วนใหญ่ได้นำ BIM มาประยุกต์ใช้ ทำให้ผู้ที่ยังไม่เคยใช้เริ่มหันมาให้ความสนใจมากขึ้น

แบบจำลองอาคาร 3 มิตินั้น จะถูกทำให้มีมิติที่ 4 เพิ่มขึ้นมาเมื่อนำเวลาและแผนงานก่อสร้าง เพิ่มเข้าไปในแบบจำลองนั้น ซึ่งแบบจำลองการก่อสร้างเสมือนจริงตามแผนงานที่วางไว้นั้น จะส่งผลให้การวางแผนงานก่อสร้างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และหากสามารถควบคุมงานก่อสร้างให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ได้จะทำให้ผลตอบแทนการลงทุนที่วางไว้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

 

นอกจากนี้ ทาง สถาปนิก วิศวกร เจ้าของอาคาร และผู้รับเหมา  จะสามารถมองเห็นภาพระบบการก่อสร้างในแต่ละขั้นตอนว่าจะมีการขัดแย้งกันหรือไม่ ต้องทำการปรับแก้แบบตรงจุดไหน ช่วยลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับก่อนการก่อสร้างจริงในอนาคต อีกทั้งยังทำให้เจ้าของงานสามารถควบคุมงบประมาณและระยะเวลาการก่อสร้างไม่ให้ล่าช้าไปจากแผนงานได้

ทั้งนี้ในหลายๆประเทศทั้ง สหรัฐอเมริกา ,อังกฤษ , ออสเตรเลียและสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรต  ได้มีการบังคับใช้ BIM สำหรับ โครงสร้างอาคารขนาดใหญ่และอาคารที่มีความซับซ้อน ทางรัฐบาลอังกฤษมีแผนการที่จะนำแบบจำลองอาคาร 3 มิติมาใช้กับโครงการของรัฐบาลทั้งหมด ในส่วนของทาง ดูไบ ได้นำ BIM มาบังคับใช้สำหรับอาคารที่มีความสูงมากกว่า 40 ชั้น และมีพื้นที่มากกว่า 300,000 ตารางฟุต

  • กุญแจสำคัญที่จะนำ BIM 4D มาประยุกต์ใช้งานให้ประสบความสำเร็จ คือ
    • การสร้างแบบจำลองอาคารที่ถูกต้องแม่นยำ
    • การวางแผนงานก่อสร้างที่สามารถทำได้จริง
    • การจัดการด้านเอกสารให้ได้ข้อมูลล่าสุดที่ถูกต้องแม่นยำ
    • แบบจำลองอาคารต้องเป็นแบบจำลองที่มีการปรับปรุงแก้ไขตามข้อมูลล่าสุด

ประโยชน์ของ การนำ BIM มาใช้จะดีหรือไม่นั้น ขึ้นกับข้อมูลที่ถูกป้อนเข้าไป นอกจากนั้นจำเป็นที่จะต้องมี ผู้จัดการด้าน BIM โดยเฉพาะซึ่งจะต้องเป็นบุคคลที่มีสามารถนำความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานการก่อสร้างอาคารมาทำการประยุกต์ใช้กับ Software ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถนำประโยชน์ของ BIM มาใช้ได้อย่างเต็มที่และทำให้เพิ่มผลตอบแทนการลงทุนได้อย่างแน่นอน

รูปที่แสดงให้เห็นในต้นบทความเป็นภาพที่ได้จากโปรแกรม Autodesk Naviswork ซึ่งเป็นการนำเอาโมเดลที่ได้จากโปรแกรม BIM เช่น โมเดลอาคารจาก Autodesk Revit ทั้ง Architecture, Structure และ MEP มาไว้ในโปรแกรม แล้วนำมาผูกกับมิติที่ 4 คือ เวลา โดยโปรแกรม Autodesk Naviswork จะสามารถใส่ข้อมูลเวลาเพื่อสร้าง Gantt Chart ทำให้ทราบความคืบหน้าของโครงการในแต่ละช่วงเวลา และสามารถนำไปทำ Working Progress Animation ได้ด้วย

โปรแกรม Autodesk Naviswork ได้ถูกบรรจุอยู่ในชุดโซลูชั่นด้านการออกแบบอาคารของออโตเดสก์อยู่แล้ว (Autodesk Building Design Suite) ซึ่งมีอยู่ในชุด Premium และ Ultimate ผู้ที่สนใจสามารถหาข้อมูลได้ที่ Autodesk Building Design Suite

บทความที่เกี่ยวข้อง

Autodesk Gold Partner

บริษัท ซินเนอร์จี้ซอฟต์ โซลูชั่น จำกัด

135/58 อาคารอมรพันธ์ 205 ทาวเวอร์ 2 ชั้น 19 ซอยรัชดาภิเษก 7  ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. 10400

โทรศัพท์ , แฟกซ์ : 02-692-2575

ติดต่อสอบถาม


LINE official account : @synergysoft

อีเมล (E-mail) : sales@synergysoft

ฝ่ายขาย : 085-323-5453

RELATED LINK


Construction & Design Solution by Synergysoft
แหล่งรวบรวมความรู้ เทคโนโลยี และโซลูชั่นการออกแบบงานอาคารด้วยระบบ BIM งานสถาปัตยกรรม งานโครงสร้างเหล็กและคอนกรีต งานระบบ การก่อสร้าง และคลาวด์โซลูชั่น

Manufacturing Solution by Synergysoft
แหล่งรวบรวมความรู้ เทคโนโลยี และโซลูชั่นการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ 3 มิติ สำหรับมืออาชีพ งานวิศวกรรม งานเครื่องจักรกล งานเอกสาร และการจำลองผลิตภัณฑ์ 

Synergysoft Education Center fanpage
อัพเดตข่าวสารการอบรม ตารางการอบรมต่างๆ ผ่าน ซินเนอร์จี้ซอฟต์ เอ็ดดูเคชั่น เซนเตอร์ แฟนเพจ

Synergysoft Education Center
Autodesk Authorized Training Center
ศูนย์อบรมการใช้โปรแกรมออกแบบและทดสอบอย่างเป็นทางการจากออโตเดสก์

Synergysoft Online Store
ร้านซอฟต์แวร์ออนไลน์ ชำระด้วยบัตรเครดิตได้

Luvicha
เว็บออนไลน์เทรนนิ่ง เรียนรู้ได้ 24 ชั่วโมง ได้ทุกที่ ทุกเวลา

Copyright 2024 © All Rights Reserved by Synergysoft