Lenovo ThinkPad P17
เป็นแล็ปท็อปที่อยู่ในรุ่น ThinkPad P-series โดยแนะนำในส่วนของรุ่น P17 ซึ่งมีขนาดหน้าจอ 17 นิ้ว ถือเป็นหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ ตอบโจทย์ฟังก์ชั่นการทำงานไม่ว่าจะเป็น นักออกแบบ ครีเอเตอร์ วิศวกร ฯลฯ โดยมีคุณสมบัติให้เลือกในส่วนของ CPU Chips Intel i5, i7, i9 / Processor: Xeon / จอแสดงผล FHD หรือ UHD
**แนะนำ**
- CPU 10th generation Core i7
- RAM 32 GB
- SSD 500 GB
**ข้อดี**
- คุ้มเกินราคา
- ปรับแต่งได้
- ปุ่มฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์
- หน้าจอป้องกันแสงสะท้อน
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน
**ข้อเสีย**
- มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักประมาณ 3.5 กก.
Acer Predator Helios 300
ด้วยระบบประมวลผล CPU 10th generation 5.0GHz turbo Hexa-core i7 แล็ปท็อปอันทรงพลังนี้หาใครเทียบได้ยาก ถือเป็นการปรับปรุงที่สำคัญของ Acer ถือเป็นแล็ปท็อปสำหรับเล่นเกม นอกจากนี้ยังมีจอแสดงผลแบบ IPS ขนาด 240z และมีให้เลือกทั้งแบบ Full HD IPS ขนาด 15.6 นิ้ว และ 17.3 นิ้ว พร้อมด้วย RAM DDR4 ขนาด 32GB และพื้นที่เก็บข้อมูล SSD สูงสุด 2TB
**ข้อดี**
- เร็ว แรง
- ราคาดีตามสเปก
- เก็บข้อมูลได้เยอะ
- มีระบบระบายความร้อน
**ข้อเสีย**
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่อยู่ที่ประมาณ 6 ชั่วโมง
Asus Tuf
ถ้าหากคุณไม่ได้กังวลในการถือกระเป๋าแล็ปท็อปที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ โดยมีหน้าจอขนาด 17.3 นิ้ว แล้วละก็ คุณจะประทับใจ Asus Tuf ที่จะสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมให้กับคุณ เป็นรุ่นที่มี CPU Intel Core i7-8750H มาพร้อมกับหน่วยความจำ DDR4 สูงสุด 32GB และ SSD 256GB และฮาร์ไดรฟ์ 1TB การ์ดจอเป็น NVIDIA GTX 1060 พร้อม GDDR5 VRAM ขนาด 8GB ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับ GPU NVIDIA ซึ่งมีประสิทธิภาพเป็นสองเท่าของ GTX 960m สำหรับการเชื่อมต่อ มีแจ็คคอมโบหูฟัง/ไมโครโฟน พอร์ต USB-A ขนาดเต็มสองพอร์ต Ethernet jack และ HDMI เนื่องจากได้รับการออกแบบมาสำหรับนักเล่นเกม คุณจะได้คุณสมบัติที่พิเศษ เช่น จอแสดงผล IPS อัตราการรีเฟรซ 144 Hz และแป้นพิมพ์ RGB เรืองแสง แม้จะออกแบบมาเพื่อสำหรับเล่นเกม แต่ก็ถือว่าเป็นแล็ปท็อปที่ดีที่สุดสำหรับ Revit
**ข้อดี**
- จอแสดงผลขนาดใหญ่
- คุ้มเกินราคา
- อัตราการรีเฟรชสูง
- ประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดีเยี่ยม
**ข้อเสีย**
- ลำโพงเป็น subpar แบบมาตรฐานทั่วไป
- ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่น้อย
Dell Inspiron 15 7000
ถือเป็นแล็ปท็อปล่าสุดในรุ่น Inspiron ของ Dell นอกเหนือจาก CPU ที่ยอดเยี่ยม (10th gen i7, 6-cores) และกราฟิก (NVIDIA GeForce GTX 1650) รวมไปถึงที่เก็บข้อมูล (NVMe PCIe SSD ขนาด 1TB) ยังมีระบบระบายความร้อนที่สามารถปรับอุณหภูมิได้ตลอดเวลา โดยจะไม่ทำให้เกิดความล่าช้าไม่ว่าจะอยุ่ที่ -40 องศาเซลเซียส หรือ 65 องศาเซลเซียส ยิ่งไปกว่านั้นยังได้รับการออกแบบมาสำหรับการทำงานจากที่บ้านเป็นเวลานานๆ เนื่องจากบานพับที่ยกแป้นพิมพ์เพื่อการพิมพ์ที่เหมาะสมที่สุด และ touchpad ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น 9.5% และยังมีฟังก์ชั่นในส่วนของ Express Charge ที่จะทำให้คุณชาร์ตแบตเตอรี่ได้ตั้งแต่ 0-80% ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง ถึงแม้ว่า Dell XPS 15 อาจจะมีสเปกที่น่าประทับใจกว่า แต่ Dell Inspiron 15 7000 ถือว่าเป็นแล็ปท็อปที่ราคาไม่แพงมาก ประมวลผลได้รวดเร็ว ทนทาน และปรับความร้อนได้ดี ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณสร้างแบบจำลอง 3 มิติที่ไร้รอยต่อได้ทุกทีทุกเวลา แต่ยังช่วยให้คุณทำงานได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย
**ข้อดี**
- การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์และสะดวกสบาย
- ทนทานและทนต่ออุณหภูมิ
- ทำงานเงียบ
- ชาร์จเร็ว
- Touchpad มีขนาดใหญ่
**ข้อเสีย**
- ไม่มีตัวเลือกการแสดงผล 4K
- ผู้ใช้งานบางคนบอกว่าแทบมองไม่เห็นแป้นคีย์บอร์ดในเวลากลางวัน
MSI WS65 9TM
ด้วยประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน i7 MSI WS65 Mobile Workstation ถือเป็นเครื่องที่น่าจับตามองเนื่องจากใช้ processor ระบบประมวลผล 8 Core intel Core i9 Generation 9 และการ์ดจอ NVIDIA Quadro RTX 16 GB จึงให้ผลการเรนเดอร์ที่รวดเร็วและมีความคมชัด ในส่วนของ Workstation MSI นี้มีซอฟต์แวร์ Creator Center ที่ช่วยให้คุณปรับแต่งการตั้งค่าได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็น Revit, AutoCad, Sketchup, Solid Works เป็นต้น นอกจากนี้หน้าจอยังแสดงผลเป็นแบบ 4K Ultra HD ซึ่งมาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ดีไซน์เพียวบางโดยมีอัตราส่วนระหว่างตัวเครื่องกับจอที่มีความเหมาะสม ทันสมัย ถึงแม้ราคาจะสูง แต่ก็อาจเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้งานที่ต้องการใช้แล็ปท็อปเป็นระยะเวลานาน
**ข้อดี**
- ประสิทธิภาพการทำงานสูง เหมาะสำหรับการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน
- จอแสดงผลเป็นแบบ 4K Ultra HD
- มีฟังก์ชั่นซอฟต์แวร์ Creator Center
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่มั่นคง
- ทนทาน
**ข้อเสีย**
- มีราคาสูง
Asus ZenBook Pro 15
ตัว Pro 15 นี้มีการเลือกใช้ Intel Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050 หรือ GTX 1050Ti GDDR5 ซึ่งแล็ปท็อปเครื่องนี้นั้นสามารถรองรับการทำงานได้หลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับ BIM โดยสิ่งที่ทำให้แล็ปท็อปรุ่นนี้ถูกจัดเป็นแล็ปท็อปที่ดีที่สุดสำหรับ Revit นั้นก็คือจอแสดงผลแบบ RHD หรือ UHD แบบมันวาวหรือแบบด้าน ที่มาในขนาด 15.6 นิ้ว จากข้อมูลของ Asus เองสามารถอัดความละเอียด 282 พิกเซลลงไปในหน้าจอเพื่อให้ได้ความคมชัดสูงสุดในจอแสดงผล NanoEdge UHD ด้วยดีไซน์ที่บางเฉียบเพียง 18.9 มม. พร้อมกับขอบจอมุมโค้งมนดูโฉบเฉี่ยว นอกจากนี้ยังมีระบบระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ทำให้อุปกรณ์ไม่ร้อนแม้ขณะเปิดใช้งานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเหมาะกับโปรแกรมที่ใช้ CPU-hogging อย่างโปรแกรม Revit
**ข้อดี**
- ระบบระบายความร้อนดีเยี่ยม
- จอแสดงผลเป็นแบบ NanoEdge UHD 4K
- ทนทาน
- มีดีไซน์ที่หรูหรา บาง ทันสมัย
**ข้อเสีย**
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
- ผู้ใช้งานบางคนมองว่าพัดลมส่งเสียดัง
Microsoft Surface Book 3
หากคุณเป็นคนที่ใช้งาน Revit ในขณะเดินทางหรือว่าภาคสนามตัว Surface Book 3 ตัวนี้อาจเป็นตัวเลือกที่ดี โดยมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 13.5 นิ้ว และ 15 นิ้ว และยังมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานถึง 17 ชั่วโมง โดยรุ่นนี้ได้มีการอัพเดต processor ระบบประมวลผลจาก Generation เป็น Quad-core Generation 10 นอกจากนี้ยังใช้การ์ดจอ GPU NVIDIA GeForce GTX 1660 ระบบใหม่มาพร้อมกับ RAM 32GB และที่เก็บข้อมูล SSD 2TB และ Wi-Fi 6 ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวเครื่องมีความเร็วขึ้นและเหมาะสมกับซอฟต์แวร์ระบบไฮเอนด์อย่าง Revit หรือ AutoCAD ยิ่งไปกว่านั้นตัวเครื่องยังมีน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางบ่อยหรือต้องทำงานในระหว่างเดินทาง
**ข้อดี**
- ระดับคุณภาพดีเยี่ยม
- จอภาพ IPS มีความสวยงาม คมชัด
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน
- แป้นพิมพ์สะดวกสบาย
- น้ำหนักเบา
**ข้อเสีย**
- ผู้ใช้บางคนบอกว่า Touchpad มีขนาดเล็กเกินไป
- มีราคาสูง
- ขาด Ethernet port
Apple MacBook Pro
MacBook Pro นั้นรองรับความละเอียดที่หลากหลาย มีพอร์ต Thunderbolt 4 พอร์ตและ trackpad ที่ไวต่อแรงกด ถึงแม้ว่า Autodesk จะเสนอ AutoCAD เว่อร์ชั่นที่รองรับกับระบบ Mac OS X และใช้งานได้กับ BIM360 แต่ Autodesk ก็มีแอพพลิเคชั่นสำหรับแพลตฟอร์ม Mac น้อยมาก
**คุณสมบัติทั่วไป**
-
16” IPS
-
Intel i7 7 2.6Ghz
-
16GB DDR4 2666Mhz
-
512GB NVMe SSD
-
AMD 4GB GDDR6 Radeon Pro 5300M
-
4.3 lb